complexplaza

14.11.08

ใบเขียว 10 ปี (1)

ถ้าคุณยื่นเรื่องขอใบเขียวแต่งงานและได้ใบเขียวภายในสองปีนับจากวันที่จดทะเบียนสมรส คุณจะได้“ใบเขียวสองปี” เป็น “ใบเขียวเงื่อนไข” หรือ “คอนดิชั่นเนิ่ล กรีนคาร์ด” (Conditional Green Card) มีอายุ 2 ปี โดยแสดงหลักฐานว่าคุณทั้งสองยังอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา ตามศัพท์อิมมิเกรชั่นเรียก bona fides marriage คือยังไม่หย่า และภายใน 90 วันก่อนครบสองปี คุณกับสามีต้องยื่นเรื่องขอยกเลิกเงื่อนไขไปที่อิมมิเกรชั่น ซึ่งใช้เวลาประมาณระหว่าง 6-8 เดือน เมื่อเรื่องผ่านหรือ “แอ็พพรูฟ” (Approve) คุณจะได้ใบเขียว 10 ปีหรือใบเขียวถาวร Permanent Green card (แต่ถ้าคุณหย่าก่อนสองปีใบเขียวสองปีนั้นจะถูก
โมฆะ)

หลังจากนั้น คุณจะสามารถยื่นเรื่องโอนสัญชาติหรือขอซิติเซ่นได้ เร็วที่สุดคือ 90 วันก่อนครบ 3 ปีนับจากวันที่ได้ใบเขียวแรก วิธีดูคือ ให้ดูบนใบเขียว จะเขียนว่า Resident since และวันที่….. . หมายความว่า คุณเป็นเรสสิเด๊นท์ หรือมีถิ่นฐานถาวร ณ. ตั้งแต่วันที่นั้น ใบเขียวจากการแต่งงานกับซิติเซ่น เป็นใบเขียวชนิดเดียวที่คุณสามารถยื่นเรื่องขอซิติเซ่นได้ภายใน 3 ปีตราบใดที่คุณยังไม่หย่า แต่ถ้าคุณหย่าหลังได้ใบเขียวถาวร หรือคุณได้ใบเขียวจากวิธีอื่นนอกเหนือจากการแต่งงานกับซิติเซ่น คุณต้องรอ 5 ปี ถึงจะขอซิติเซ่นได้

ข้อยกเว้นคุณสามารถยื่นเรื่องขอผ่อนผัน โดยขอใบเขียวถาวร (ใบเขียว 10 ปี) ด้วยตนเองในกรณีเหล่านี้ถ้าคู่สมรสตายถ้าคุณแต่งงานจริง แต่มีเหตุผลที่ต้องหย่าถ้าคู่สมรสไม่ยอมร่วมมือเซ็นถ้าคู่สมรสซิติเซ่นของคุณตบตี ทารุณกรรมกับคุณหรือ/และ ลูกของคุณ

ในกรณีใดกรณีหนึ่งข้างต้นเกิดขึ้นกับคุณ ทำให้คุณไม่สามารถยื่นเรื่องขอใบเขียวถาวรพร้อมคู่สมรสได้
คุณต้องยื่นเรื่องไปอิมมิเกรชั่นด้วยตนเอง โดยยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียม กรอกฟอร์ม และส่งหลักฐานที่เกี่ยวเนื่องกับเคสคุณไปให้อิมมิเกรชั่น

กรณีแยกกันหรือหย่ากรณีที่ชีวิตสมรสของคุณไปไม่รอด คุณสามารถยื่นเรื่องขอผ่อนผันด้วยตนเองได้ โดยคุณต้องแสดงว่าคุณแต่งงานจริง โดยมีเจตนาที่จะ”ร่วมหัวจมท้าย”ด้วยกัน แต่เนื่องจากอยู่ด้วยกันไม่ได้ จึงต้องเลิกกัน และไม่ใช่ความผิดของคุณที่ต้องยื่นเรื่องขอใบเขียวถาวรด้วยตนเอง

ข้อแตกต่างระหว่างยื่นเรื่องหย่าเลย หรือแยกกันอยู่เฉยๆโดยไม่หย่า
ถ้าคุณแยกกันอยู่เฉยๆโดยยังไม่ได้ยื่นเรื่องหย่า คุณต้องรอให้ถึง 90 วันก่อนครบสองกำหนด 2 ปี คุณถึงจะยื่นเรื่องขอใบเขียวถาวร และคุณต้องยื่นหลักฐานว่ากรณีที่ชีวิตสมรสของคุณไปไม่รอด คุณสามารถยื่นเรื่องขอผ่อนผันด้วยตนเองได้ โดยคุณต้องแสดงว่าหลักฐานว่าคุณแต่งงานจริง แต่เนื่องจากอยู่ด้วยกันไม่ได้ จึงแยกกันอยู่ หรือคู่สมรสไม่ร่วมมือเซ็น และนอกจากนั้นคุณต้องแสดงว่าคุณจะยากลำบากหรือ”เอ็กซ์ตรีม ฮาร์ดชิพ” (Extreme hardship)อย่างไรถ้าคุณไม่ได้ใบเขียวถาวร ความยากลำบากเช่น คุณอยู่อเมริกามานาน มีครอบครัว ญาติพี่น้องหลายคนอยู่ในอเมริกา คุณมีงานทำดีเป็นหลักแหล่ง ลูกเรียนหนังสือดี และมันจะยากลำบากอย่างไรถ้าคุณหรือลูกต้องสูญใบเขียว และถูกส่งกลับและไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองไทย เป็นต้น ซึ่งการแสดงถึงความยากลำบากหรือ “เอ็กซ์ตรีม ฮาร์ดชิพ”ไม่ง่ายนัก ถ้าคุณตัวคนเดียวเพิ่งมา
อยู่อเมริกา ไม่มีญาติพี่น้อง และไม่ได้ทำงาน เป็นต้น เรื่องก็อาจไม่ผ่าน

กรณีที่คุณหย่า
ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคุณหรือคู่สมรสยื่นเรื่องหย่าก่อน ทันทีที่คุณยื่นเรื่องหย่า คุณสามารถยื่นเรื่องขอผ่อนผันและขอใบเขียวถาวรได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้เรื่องหย่าจบลง และไม่ต้องรอยื่นในช่วง 90 วันก่อนครบสองปี โดยคุณต้องแสดงว่าคุณแต่งงานจริง แต่เนื่องจากอยู่ด้วยกันไม่ได้ จึงต้องเลิกกัน และไม่ใช่ความผิดของคุณที่ต้องยื่นเรื่องขอใบเขียวถาวรด้วยตนเอง คุณไม่จำเป็นต้องแสดงถึง”เอ็กซ์ตรีม
ฮาร์ดชิพ” และคุณเรื่องขอใบเขียวถาวรได้ทันทีโดยไม่ต้องคอย ข้อเตือนนะคะ คุณต้องแต่งงานจริง และมีเจตนาที่จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยาแต่ชีวิตคู่ไปไม่รอด ถึงต้องหย่า

ถ้าคุณถูกทารุณกรรม
กรณีที่คุณถูกคู่สมรสทารุณ ตบตีคุณ หรือตบตีลูกคุณ คุณไม่ต้องรอถึงสองปี คุณสามารถยื่นเรื่องขอ
ใบเขียวถาวรด้วยตนเองได้เลย โดยจะยื่นเรื่องหย่าหรือยังใม่ยื่นก็ได้

กรณีไม่แต่งงานจริง
กรณีที่คุณแต่งงานเพื่อใบเขียวอย่างเดียว และหลังจากคุณได้ใบเขียวสองปี แต่คู่สมรสหายตัวไปไหน
ไม่รู้ ไม่แนะนำให้คุณยื่นเรื่องผ่อนผันขอใบเขียว 10 ปีด้วยตนเอง เพราะคุณไม่ได้แต่งงานจริงตั้งแต่
แรก เห็นมีทางเดียวคือ หย่า และภาวนาขอให้เจอเนื้อคู่จริงเร็วๆก่อนที่ใบเขียวจะหมดอายุ และคราวนี้
คุณแต่งงานใหม่จริงด้วยความรัก คุณต้องยื่นเรื่องทำใบเขียวแต่งงานใหม่ คุณไม่สามารถทำเรื่อง
ขอใบเขียวถาวรหรือใบเขียว 10 ปี จากคู่สมรสคนใหม่ได้ เนื่องจากใบเขียวสองปีได้มาจากคู่สมรส
คนเก่า คราวนี้เมื่อคุณยื่นเรื่องขอใบเขียวแต่งงานใหม่ คุณจะถูกเพ่งเล็งมากขึ้นตอนสัมภาษณ์

source : www.rujirat.com

No comments: