complexplaza

14.11.08

วีซ่าใหญ่/วีซ่าเล็ก

เมื่อสถานทูตอเมริกันออกวีซ่าท่องเที่ยว 10 ปีให้คุณ เป็นวีซ่า Multi Entry คือคุณสามารถเดินทางเข้าออกอเมริกาได้โดยคุณไม่ต้องขอวีซ่าใหม่แต่ละครั้งที่คุณจะเดินทางไปอเมริกา เมื่อคุณเดินทางเข้าอเมริกาเจ้าหน้าที่กองตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.) หรือ Immigration Officer ที่สนามบินจะแสตมป์วันที่ที่คุณเข้าประเทศ และวันที่ที่คุณต้องออกประเทศบน “บัตรขาเข้า” (เรียก Arrival Card หรือ I-94 Card) โดยปกติเจ้าหน้าที่ ต.ม. มักจะแสตมป์ให้คุณอยู่ในประเทศ 6 เดือน คนไทยส่วนมากมักเรียก วีซ่า 10 ปีว่า “วีซ่าใหญ่” และเรียกบัตรขาเข้าว่า “วีซ่าเล็ก” เมื่อคุณเดินทางกลับเมืองไทย เจ้าหน้าที่สายการบินจะดึงบัตรขาเข้า/ออกของคุณออก และรายงานเข้าอิมมิเกรชั่น ซึ่งจะเป็นเร็คคอร์ดว่าคุณได้เดินทางออกนอกประเทศแล้ว ซึ่งทางสถานทูตจะมีข้อมูลนี้เช่นกัน สมัยก่อนผู้ที่อยู่เกินเมื่อกลับเมืองไทยมักจะไปให้เจ้าหน้าที่ ต.ม. แสตมป์ย้อนหลังเพื่อตบตาสถานทูตว่าคุณไม่ได้อยู่เกินเพื่อไปขอวีซ่าใหม่ ขอเตือนเลยนะคะว่าสมัยนี้มันไม่เวิ้ร์คแล้วค่ะ ถ้าเขาไม่มีเร็คคอร์ดบัตรขาเข้าของคุณ เขาจะสันนิษฐานว่าคุณอยู่เกินและคุณจะขอวีซ่าใหม่ไม่ผ่าน

ขออยู่ต่อ
ถ้าคุณมีความจำเป็นจริงๆต้องขออยู่ต่อเกินกว่า 6 เดือน คุณสามารถยื่นเรื่องขออยู่ต่อไปที่อิมมิเกรชั่นได้ ควรจะยื่นอย่างน้อยประมาณ 60 วันก่อนบัตรขาเข้าหมดอายุ วีซ่าเล็กต้องยังไม่ขาด ตั้งแต่เหตุการณ์ 9/11 การขออยู่ต่อจะยากขึ้นและมักไม่เรื่องค่อยผ่าน นอกจากจะมีเหตุการณ์จำเป็นฉุกเฉินจริงๆ ที่คุณไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และคุณต้องแสดงหลักฐานรัดกุมด้านการ กิจการ การงาน ทางเมืองไทยว่าทุกอย่างดำเนินไปปกติในขณะที่คุณอยู่อเมริกา และโชว์ว่าคุณมีเงินซัพพอร์ทตัวเองในขณะอยู่ในอเมริกาโดยไม่ต้องทำงาน

ระหว่างคอยเรื่อง
ระหว่างคอยเรื่องผ่านหรือไม่ คุณต้องห้ามทำงาน และบัตรขาเข้ายังไม่หมดอายุ ถ้าบัตรขาเข้าหมดอายุเมื่อไร เท่ากับคุณอยู่เกินอย่างผิดกฎหมาย ถ้าคุณเสี่ยงอยู่คอยเรื่อง และเรื่องคุณผ่าน คุณก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเรื่องไม่ผ่านเท่ากับคุณเป็นโรบินฮู้ดนับตั้งแต่วันที่บัตรขาเข้าหมดอายุ

ควรยื่นเรื่องขออยู่ต่อหรือไม่
ถ้าคุณมีความจำเป็นจริงๆที่ต้องอยู่ต่อ คุณก็ต้องลองยื่นเรื่องเข้าไป แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆขอแนะนำว่าอย่ายื่น เช่นกรณีที่คุณต้องการอยู่ต่อเพื่อทำงานเก็บเงินสักพักหรืออยากอยู่ต่อเผื่อจะได้ปิ๊งกับใครและแต่งงานทำใบเขียวภายหลัง เพราะถ้าคุณยื่นเรื่องขออยู่ต่อและเรื่องไม่ผ่าน คุณจะได้รับจดหมายเตือนให้คุณเดินทางออกจากประเทศ เท่ากับคุณไปเรียกความสนใจจากอิมมิเกรชั่น หรือถ้าคุณยื่นเรื่องขออยู่ต่อและไม่ผ่าน พอคุณจะไปขอวีซ่าเข้าอเมริกาใหม่ คุณจะขอลำบากเพราะทางสถานทูตจะสันนิษฐานว่าคราวหน้าคุณอาจจะอยู่เลยไม่กลับขออยู่ต่อระหว่างยื่นเรื่องขอใบเขียว

วกกลับมาคำถาม ถ้าคุณจะแต่งงานกับอเมริกันซิติเซ่น ดิฉันคิดว่าคุณควรพยายามจดทะเบียนก่อนที่บัตรขาเข้าจะหมดอายุและรีบยื่นเรื่องขอใบเขียว แต่ถ้าคุณลุ้นไม่ขึ้นและอีกฝ่ายยังไม่ขอแต่งงานเสียที คุณก็ต้องวัดดวงเอาว่าจะทำอย่างไร ถ้าคุณยื่นเรื่องขออยู่ต่อ และเหตุผลไม่ดีพอคือ “รอแต่งงาน” ก็คงถูกปฏิเสธกลับมา และ ถ้าเกิดคุณไม่ได้แต่ง ก็อาจจะเป็นการเสี่ยงมากกว่าที่จะปล่อยให้วีซ่าขาด (เงียบๆ) เพราะเมื่อคุณยื่นเรื่องเข้าไป ทางอิมมิเกรชั่นจะเพ่งเล็งและรู้ว่าคุณยังไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศ แต่ถ้าคุณได้แต่งงานกับอเมริกันซิติเซ่น ถึงแม้คุณวีซ่าขาดแล้วก็ไม่เป็นไรค่ะ เพราะคุณยังทำใบเขียวได้อยู่ดี

ข้อแตกต่างในการทำใบเขียวแต่งงานในขณะที่วีซ่ายังไม่ขาดคือ ถ้าคุณมีความจำเป็นต้องการเดินทางออกนอกประเทศระหว่างรอใบเขียว คุณสามารถขออนุญาตออกไปได้ แต่ถ้าวีซ่าขาดแล้ว คุณเดินทางออกไม่ได้ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่จำเป็นเพราะปัจจุบันใช้เวลาทำใบเขียวแต่งงานเร็วมากประมาณ 4 เดือน

ในกรณีที่แฟนที่คุณจะแต่งงานด้วยถือใบเขียวแต่ยังไม่ได้เป็นซิติเซ่น อันนี้ต่างกับตัวอย่างข้างต้น เพราะการทำใบเขียวจากแฟนที่ถือใบเขียวอยู่ภายใต้โควต้าภายใต้กรุ๊บ เพร็ฟเฟอเร็นซ์สอง และใช้เวลานานประมาณ 5 ปี ถ้าคุณอยากอยู่กับแฟนรอเรื่องใบเขียวอยู่ในอเมริกา คุณจะต้องอยู่แบบโรบินฮู้ด เพราะถึงแม้คุณทำเรื่องขออยู่ต่อ คุณก็จะอยู่ต่อได้สูงสุดเพียง 6 เดือนเท่านั้น และหลังจากนั้นบัตรขาเข้าของคุณจะขาดอยู่ดี และเมื่อโควตาของคุณมาถึง คุณจะไม่สามารถรับใบเขียวในอเมริกาได้ คุณมีทางออกอย่างเดียวค่ะ คือ ทันทีที่แฟนคุณมีคุณสมบัติพร้อมที่จะทำซิติเซ่น เขาต้องรีบยื่นเรื่องทำซิติเซ่นทันที และเมื่อเขาได้ซิติเซ่นแล้ว เราจึงยื่นเรื่องไปที่อิมมิเกรชั่น “อัพเกรด”เคสคุณจากคู่สมรสของใบเขียวเป็นคู่สมรสซิติเซ่น คุณถึงจะมีสิทธิรับใบเขียวในอเมริกาได้ถึงแม้คุณจะอยู่เถื่อน และคุณจะได้ใบเขียวทันทีภายใน 4 เดือนไม่ต้องคอยโควตาอีกต่อไป

source : http://www.rujirat.com/

No comments: