complexplaza

18.11.08

IMMEGRATION (2)

อิมมิเกรชั่นรู้ได้อย่างไรว่าคุณอยู่เถื่อน
ถ้าคุณอยู่ในอเมริกาอย่างผิดกฎหมาย คือวีซ่าขาดแล้ว คุณห้ามเดินทางออกนอกประเทศ จนกระทั่งได้ใบเขียวอยู่ในมือ เวลาเดินทางคุณต้องใช้พาสปอร์ตไทยเดินทาง พาสปอร์ตไทยต้องมีอายุเหลืออย่างน้อยเกิน 6 เดือน ถ้าคุณที่มีพาสปอร์ตขาดแล้วขอให้ติดต่อสถานกงสุลไทยในอเมริกาและทำพาสปอร์ตแต่เนิ่นๆเพราะตอนนี้พาสปอร์ตรุ่นใหม่เป็นอีพาสปอร์ต และต้องส่งกลับไปทำที่เมืองไทยจึงใช้เวลาหลายสัปดาห์ เมื่อคุณถือใบเขียว คุณไม่ต้องมีวีซ่าเข้าอเมริกาอีกต่อไป ใบเขียวคือวีซ่าถาวร ใช้แสดงแทนวีซ่าเมื่อเดินทางเข้าอเมริกา

มีหลายวิธีที่อิมมิเกรชั่นรู้ว่าคุณอยู่เถื่อนและเป็นผลให้คุณอาจถูกตามจับช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของการทำผิด ดังนี้

ผู้ถือวีซ่าท่องเที่ยว เมื่อคุณเดินทางกลับเจ้าหน้าที่สายการบินจะดึงบัตรขาเข้าออกจากพาสปอร์ตคุณและแจ้งไปที่อิมมิเกรชั่น ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มีบันทึกนี้ ก็จะสันนิษฐานก่อนเลยว่าคุณอยู่เกิน กรณีนี้ปัญหาน้อยเพราะคนที่ถือวีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอเมริกาปีละหลายล้านคน ไม่ค่อยจะมีเจ้าหน้าที่สนใจมาตามจับเรื่องนี้ นอกจากถ้ามีบางอย่างไปกระตุ้นให้เขาเพ่งเล็งเช่น คุณไปทำเรื่องขออยู่เที่ยวต่อ เรื่องถูกปฏิเสธ ทางอิมมิเกรชั่นจะมีเร็คคอร์ดว่าบัตรขาเข้าของคุณขาด และเพ่งเล็งว่าคุณเดินทางออกนอกประเทศหรือไม่ และอีกกรณีหนึ่งที่คาดไม่ถึง คือครอบครัว ลูก คู่สมรส ในเมืองไทยไปขอวีซ่าท่องเที่ยว ทางสถานทูตเช็คนามสกุลตรงกันรู้ว่า เคยออกวีซ่าท่องเที่ยวให้คุณและคุณเดินทางเข้าอเมริกาแต่ไม่มีเร็คคอร์ดเดินทางออก ทางสถานทูตอาจแจ้งไปทางอิมมิเกรชั่น

ผู้ถือวีซ่านักเรียน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2003 ระบบ SEVIS เข้าที่ คือทางโรงเรียนที่ออก I-20 ให้นักเรียนต่างชาติต้องแจ้งเข้าไปที่อิมมิเกรชั่นถ้าคุณย้ายโรงเรียน ย้ายที่อยู่ ไม่ไปเรียน ไม่ลงทะเบียนเรียนตอนเปิดเทอม เป็นต้น ทางอิมมิเกรชั่นจะสันนิษฐานว่าคุณอยู่เถื่อน

โรบินฮู้ดแต่งงานยื่นเรื่องไม่ผ่าน เมื่อคุณยื่นเรื่องขอใบเขียวแต่งงานและเรื่องไม่ผ่าน ทางอิมมิเกรชั่นจะให้จดหมายคุณสั่งให้คุณเดินทางออกนอกประเทศ ถ้าคุณไม่ออก โอกาสที่เจ้าหน้าที่ตามจับสูงหรืออีกกรณีที่คุณเคยทำผิดกฎหมายอิมมิเกรชั่นแบบร้ายแรงมาก่อน หรือเคยถูกขับไล่มาก่อน เมื่อคุณยื่นเรื่องขอใบเขียว หลังคุณพิมพ์นิ้วมือ เจ้าหน้าที่จะรู้ว่าคุณมีประวัติเขาจะมาตามจับขณะยื่นเรื่อง (เพียงอยู่เถื่อนวีซ่าขาด จะไม่ถูกจับ)

มีคนไปแจ้ง ถ้ามีคนไปแจ้งอิมมิเกรชั่นว่าคุณอยู่เถื่อนหรือเคยทำผิดกฎอิมมิเกรชั่น ที่เห็นๆส่วนมากก็จะเป็นคนใกล้ชิด เช่น นายจ้าง เพื่อนร่วมงาน พาร์ทเน่อร์ธุรกิจ คนที่คุณขัดผลประโยชน์เขา คนที่คุณแต่งงานด้วย แฟนเก่า เป็นต้น (โถ! คนไทยด้วยกัน)

กระบวนการทางกฏหมาย
ตามสิทธิรัฐธรรมนูญภายใต้ บิล อ๊อฟ ไรท์ส (Bill of Rights) สิทธิเบื้องต้นใน 10 อเม็นด์เม๊นท์แรก ซึงคุ้มครองทุกคนที่อยู่ในอเมริกาไม่ว่าจะอยู่เถื่อนหรือไม่ ระบุว่าก่อนที่คุณจะถูกจับ คุณจะต้องได้รับโนติสก่อน คือแจ้งข้อกล่าวหา มีเวลาตอบหมายศาล มีทนาย และสามารถสู้คดีได้ เป็นต้น ซึ่งเมื่อก่อนนี้ เมื่อทางที่อิมมิเกรชั่นพยายามเสริฟโนติสหรือหมายศาลให้โรบินฮู้ด โรบินฮู้ดหนี อยู่ไม่เป็นที่ทาง ไม่สามารถหาตัวเสริฟโนติสโรบินฮู้ดได้ เมื่อโรบินฮู้ดขึ้นสาล ทนายจะสามารถอ้างละเมิดสิทธิเสมอ แต่ตั้งแต่หลังปี 2003 ทางอิมมิเกรชั่นรื้อฟื้นกฎที่ว่าคนต่างชาติทุกคน ที่เข้ามาในประเทศและอยู่เกิน 30 วัน ต้องแจ้งย้ายที่อยู่ไปที่อิมมิเกรชั่นภายใน 10 วันนับจากวันย้ายที่อยู่โดยกรอกฟอร์ม AR 11 ส่งไป ถ้าไม่แจ้งให้ถือว่ามีความผิด และข้อสำคัญคือ ทางอิมมิเกรชั่นจะถือที่อยู่ที่เขามีในเร็คคอร์ดเป็นที่อยู่ล่าสุดของคุณที่ทางอิมมิเกรชั่นใช้ติดต่อคุณ ฉะนั้นถ้าทางอิมมิเกรชั่นเสริฟโนติสคุณตามที่อยู่ล่าสุด และคุณไม่ได้รับโนติสนั้นเพราะหนีไปแล้วหรือ ??? ไม่สำคัญ เพราะถือว่าทางรัฐบาลได้ปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายแล้ว และไม่ได้ละเมิดสิทธิรัฐธรรมนูญของคุณ ฉะนั้นเมื่อเขาตามถึงตัวคุณได้ เขาจะสามารถจับตัวคุณและเนรเทศคุณได้เลย

เมื่ออิมมิเกรชั่นมาเคาะประตูบ้าน
เมื่อเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นนมาจับคุณถึงบ้าน และสิทธิรัฐธรรมนูญของคุณและคนอื่นที่อยู่ในบ้าน เพื่อช่วยไม่ให้คุณพูดมากไป หรือตอบคำถามในสิ่งที่ไม่ควรตอบ หรืออนุญาตให้เขาเข้าบ้านเป็นผลให้คนอื่นถูกจับไปด้วย ดังนี้

Search and Seizure Rights
ตามสิทธิรัฐธรรมนูญอเม็นด์เม๊นท์ข้อ 4 ห้ามเจ้าหน้าที่ค้น อายัด โดยไม่มีหมายค้นหรือข้อสงสัยพอเพียง เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงบ้านคุณ บ้านถือเป็นสถานที่ ที่มีไปรเวซี่สูงสุด เจ้าหน้าที่จะยืนอยู่แค่หน้าประตูบ้าน และถามหาคนที่เขามาจับ เจ้าหน้าที่ไม่มีสิทธิเข้าบ้านคุณได้นอกจากคุณจะอนุญาต เขาอาจขอเข้าไปข้างใน คุณบอกปฎิเสธได้ ไม่ต้องกลัว ถามเขาว่ามีหมายค้น “เซิร์ช วอแรนท์” (search warrant)ไหม เขาอาจตอบว่าไม่มี แต่เขากลับไปเอาได้ บอกเขาให้กลับไปเอา เขาจะเข้าไปไม่ได้ เจ้าหน้าที่อาจมองเข้าไปในบ้านคุณขณะคุณยืนแง้มประตู และเห็นสิ่งที่น่าสงสัยเช่น เขาถามคุณว่าอยู่กันกี่คน คุณบอกอยู่คนเดียว แต่เขาเห็นที่นอน หมอน เสื้อผ้าวางเต็มห้องรับแขก เป็นต้น เขาถามมากขึ้นๆจนคุณยอมรับ ก็จะเป็นปัญหาอีก หรือคุณอาจจมีชื่อโรบินฮู้ดคนอื่นๆ ที่อยู่ในบ้านคุณแปะติดอยู่ตรงตู้จดหมายนอกอพาร์ทเม๊นท์ เจ้าหน้าที่เห็นชื่อที่ตู้จดหมาย ได้เช็คประวัติเรียบร้อยก่อนมาเคาะประตูบ้าน เก๊าะจะแจ๊กพ็อตอีก

ถ้าคุณอนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าบ้านคุณ เขาสามารถเช็คผิวเผินได้และเดินเข้าได้ทุกห้อง และถ้าคุณมีคนอื่นหรือโรบินฮู้ดคนอื่นอาศัยอยู่ในบ้านคุณ เขาสามารถถามข้อมูล ขอเช็คไอดี (I.D. Identification) เช็คสถานภาพได้ และถ้าผู้นั้นอยู่เถื่อน เขาสามารถจับตัวไปได้ ฉะนั้นมาจับคนเดียวแต่ได้หลายคน เป็นต้น

Rights against Self Incrimination
ตามสิทธิรัฐธรรมนูญอเม็นด์เม๊นท์ข้อ 5 คุณมีสิทธิที่จะไม่ตอบคำถามที่จะเป็นปรปักษ์ต่อตนเอง โดยทั่วไปเจ้าหน้าที่สามารถถามคำถามทั่วๆไปคุณได้ โดยไม่ต้องเตือนคุณว่าไม่ต้องตอบ ขอให้คุณตอบน้อยที่สุด คือถามคำ ตอบคำ ไม่ต้องรับอาสาตอบ หรืออธิบายมาก แต่ถ้าคุณไม่ต้องการตอบหรือคิดว่าถ้าตอบแล้วจะเป็นภัยต่อตัว คุณมีสิทธิปฏิเสธไม่ตอบได้ คุณบอกเขาว่าคุณต้องการถามทนายก่อนตอบ หรือถ้าคุณไม่เข้าใจคำถาม คุณบอกเขาว่าคุณไม่เข้าใจให้หาคนแปลมา กรณีนี้ระวังหน่อย เพราะเจ้าหน้าที่อาจถามต่อว่ามีใครอยู่ในบ้านที่รู้ภาษาและแปลได้ไหม (ซึ่งถ้ามีและคนนั้นเป็นโรบินฮู้ด ก็แจ๊กพ็อตอีก) ฉะนั้น คุณต้องสำรวจสถานการของคุณเอง แต่ละเวลาแต่ละสถานการณ์จะต่างกัน ขอให้คุณระวังคำพูด

เหตุการณ์ที่หนึ่งเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นมาเคาะประตูอพาร์ทเม๊นท์ คนในบ้านผู้ชายเปิดรับ เจ้าหน้าที่ถามหาผู้หญิงซึ่งเคยอยู่ที่นั่นมาก่อนและได้ย้ายออกไปแล้ว ผู้ชายตอบว่าไม่มีคนชื่อนี้อยู่ เจ้าหน้าที่ขอเช็คพาสปอร์ตและ I-20 ของผู้ชายปรากฎว่าระหว่างเช็ค ได้ยินเสียงรูมเม็ทผู้หญิงอาบน้ำอยู่ข้างในอพาร์ทเม๊นท์ เจ้าหน้าที่จึงถือโอกาสเข้าไปในอพาร์ทเม๊นท์และเคาะประตูห้องน้ำเรียกให้ผู้หญิงออกมา เจ้าหน้าที่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะเขาอาจตั้งข้อสงสัยได้ว่า ผู้หญิงที่เขามาตามตัวอาจเป็นรูมเมทหลบซ่อนอยู่ในห้องน้ำ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ขอเช็คพาสปอร์ต วีซ่าและสถานภาพ ซึ่งในเหตุดารณ์นี้ทั้งสองเป็นนักเรียนอยู่อย่างถูกต้องและวีซ่าไม่ขาด แต่เจ้าหน้าที่ไม่หยุดตรงนั้น ได้ไต่สวนและถามต่อว่า ทั้งสองทำงานหรือเปล่า ทันทีที่ยอมรับว่าทำงาน ซึ่งผิดกฎวีซ่านักเรียน ทั้งสองถูกจับและต้องไปขึ้นศาลภายหลังวิธีปกป้องเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ง่าย โดยเฉพาะคนไทยที่เพิ่งมาอยู่อเมริกา ยังไม่มีเครดิตและไม่สามารถเช่าอพาร์ทเม๊นท์ได้ด้วยตนเอง หรือบางทีต้องแชร์กับรูมเมทคนอื่น หลายคนก็อาจเช่าช่วงต่อจากคนไทยคนอื่นที่ย้ายออกไปแล้ว ถ้าอิมมิเกรชั่นมาจับคนที่เคยอยู่ที่บ้าน คนที่อยู่ปัจจุบันก็จะโดนร่างแหไปด้วย

วิธีปกป้อง คือพยายามอย่าเช่าช่วงบ้านหรืออพาร์ทเม๊นท์ต่อจากคนอื่น พยายามเช่าที่อยู่ด้วยตนเอง ถ้าคุณไม่มีเครดิต คุณยังเช่าได้โดยอาจต้องวางมัดจำสองเดือนแทนที่จะเป็น 1 เดือน และบอกเจ้าของบ้านว่าถ้าคุณจ่ายตรงเวลา 6 เดือนแรก คูณขอมัดจำที่วางเกิน 1 เดือนคืน เป็นต้น โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ คุณสามารถต่อรองกับเจ้าของอพาร์ทเม๊นท์ตอนเช่าบ้านได้

เหตุการณ์ที่สองลูกเพื่อนจะมาเรียนหนังสือในเมกา ขอยืมใช้ที่อยู่คุณในเมกากรอกตอนยื่นเรื่องขอวีซ่านักเรียน หลังได้วีซ่าเด็กมาเมกาพักบ้านคุณได้ 1 เดือนและย้ายออกไปอยู่ไหนไม่ทราบ ต่อมาอีก 1-2 ปีต่อมา คุณมีน้องมาวีซ่าท่องเที่ยวจากเมืองไทยมาช่วยทำงานในร้านอาหาร น้องปล่อยให้วีซ่าขาดเป็นพ่อครัวอยู่ร้านอาหาร วันหนึ่งเจ้าหน้าที่อิมมิเกรชั่นมาเคาะประตูตามจับเด็กลูกเพื่อน เพราะเด็กไม่ไปเรียนหนังสือ น้องชายเปิดประตูบาน เลยแจ๊คพ็อท ถูกเจ้าหน้าที่ขอเช็คพาสปอร์ตและวีซ่า ซึ่งขาดเรียบร้อยแล้ว เลยถูกส่งกลับ วิธีปกป้องเหตุการณ์เกิดขึ้นเนื่องจากปัจจุบัน ผู้ถือวีซ่านักเรียน ถ้าขาดเรียนเพียงหนึ่งเทอม ทางโรงเรียนจะแจ้งไปที่อิมมิเกรชั่น อิมมิเกรชั่นจะตามจับโดยไปหาตัวตามที่อยู่ล่าสุดที่เขามี ในที่นี้อาจเป็นที่อยู่ที่เด็กกรอกตอนขอวีซ่าหรือที่อยู่ที่เด็กแจ้งในใบสมัครเข้าเรียน ถ้าเด็กไม่เคยแจ้งย้ายที่อยู่ทางอิมมิเกรชั่นจะตามไปตามที่อยู่ที่เขามี ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ 9/11 ปี 2001 กฎหมายอิมมิเกรชั่นเข้มงวดมากขึ้น โรงเรียนที่ได้อนุมัติให้ออก I-20 ได้ตกอยู่ภายใต้ระบบ SEVIS คือมีหน้าที่ต้องแจ้งอิมมิเกรชั่นทุกครั้งที่ผู้เด็กมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ย้ายโรงเรียน ย้ายที่อยู่ เด็กทำงาน หรือไม่มาเรียนหนังสือ เป็นต้น คุณสามารถปกป้องได้คือ ในกรณีนี้ตอนลูกเพื่อนย้ายออกจากบ้านคุณ คุณต้องให้เขากรอกฟอร์ม AR-11 แจ้งย้ายที่อยู่ไปที่อิมมิเกรชั่น ตามกฎคนต่างชาติทุกคนที่ไม่ได้เป็นซิติเซ่นต้องแจ้งย้ายที่อยู่ไปที่อิมมิเกรชั่นภายใน 10 วัน คุณสามารถดึงฟอร์ม AR-11 จาก http://www.uscis.gov/ และในอนาคตอย่าให้คนอื่นยืมที่อยู่คุณไปใช้ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ

source : www.rujirat.com

No comments: