complexplaza

18.11.08

IMMEGRATION !!

พูดถึงสถิติที่อิมมิเกรชั่นตามจับโรบินฮู้ดตามที่ทำงานเพิ่มมากขึ้น11% กว่าปีที่แล้ว เพราะตั้งแต่ปี 2003 รัฐบาลได้แยกอิมมิเกรชั่นออกเป็นสามแผนก คือ
(1) แผนกเอกสารเรียกย่อๆ ว่า USCIS ย่อมาจาก United States of Citizenship and Immigration Services
(2) แผนกศุลกากรและตรวจชายแดน เรียก CBP ย่อมาจาก Customs and Border Patrol ทำหน้าที่คล้ายเจ้าหน้าที่ศุลการักษ์และเจ้าหน้าที่ตรวจชายแดน
(3)แผนกปฏิบัติหรือ “เอ็นฟอร์ซเม๊นท์” คือแผนกจับคนทำผิดฎหมายอิมมิเกรชั่น เรียกย่อว่า ICE ย่อมาจาก Immigration and Custom Enforcement เวลาไอ๊ซ์บุกจับจะใช้คำว่า “ไอ๊ซ์ เหรด” (ICE raids คำว่า “เหรด” แปลตรงตัวว่า “บุก”)

ทางรัฐบาลได้เพิ่มงบและจ้างเจ้าหน้าที่แผนกจับนี้มากขึ้น เพราะตั้งแต่คองเกรสถกกันเรื่องจะออกกฎหมายใหม่ “เกสท์ เวิ็ร์คเค่อร์” โดยออกวีซ่าให้โรบินฮู้ดทำงานอย่างถูกต้อง แต่ก่อนที่จะผ่านกฎหมายฉบับนี้ มีสิ่งแลกเปลี่ยนคือ ทางสภาต้องการเห็นรัฐบาลเอาจริงกับพวกโรบินฮู้ดที่อยู่เถื่อนและลักลอบทำงานเถื่อน ฉะนั้นไอ๊ซ์จึงทำงานหนักและโชว์ผลงาน

ผู้ถือใบเขียวถูกเนรเทศข่าวที่ลงในหนังสือพิมพ์ ฉบับวันที่ 18 November 2007 มีดังนี้ คือนายเปรโดอายุ 54 ปี ชาวฟิลิปปินส์ปัจจุบันเป็นหมออยู่รัฐเพนซิลเวเนีย ภรรยาชื่อนางซัลวาซิออน ชาวฟิลิปปินส์เป็นเจ้าของร้านโกรเซอรี่ ทั้งสองถือใบเขียวและอยู่ในอเมริกากว่า 20 ปี ทั้งสองกำลังถูกอิมมิเกรชั่นดำเนินเรื่องเนรเทศ เรื่องราวดังนี้คือ ในปี 1978 ขณะที่ทั้งสองยังโสด แม่ของผู้ชายแอ็พพลายใบเขียวให้นายเปรโด และแม่ผู้หญิงแอ็พพลายใบเขียวให้นาง(สาว)ซัลวาซิออน ในกรุ๊บเพร็ฟเฟอเร็นซ์ลูกไม่สมรส ก่อนได้ใบเขียวทั้งสองได้จดทะเบียนสมรสกันปี 1980 หลังจากนั้นปี 1982 นางซัลวาซิออนได้ใบเขียว วันไปสัมภาษณ์เธอแจ้งกงสุลว่าตนยังโสด เธอบินเข้ามาอยู่อเมริกาปี 1982 ส่วนนายเปโดรวันไปสัมภาษณ์แจ้งสถานทูตว่าตนยังไม่ได้สมรสเช่นกัน และได้ใบเขียวปี 1984 นายเปรโดและนางซัลวาซิออนได้ยื่นเรื่องทำซิติเซ่นปี 1990 เรื่องไม่ผ่าน เพราะอิมมิเกรชั่นได้พบว่าตอนที่ทั้งสองได้ใบเขียว ทั้งสองคนได้จดทะเบียนสมรสแล้ว และไม่ได้แจ้งให้สถานทูตรู้ว่าตนแต่งงานแล้ว อิมมิเกรชั่นจึงดำเนินเรื่องเนรเทศทั้งสอง และทั้งสองได้ต่อสู้มาจนปัจจุบัน ซึ่งวันศุกร์ที่ 23 พ.ย. หลัง Thanksgiving นี้ทั้งสองมีนัดไปอิมมิเกรชั่น เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า บางครั้งเรื่องที่คุณโกหกไว้นานจนคุณเองก็ลืม มันสามารถกลับมาหลอนคุณได้ในอนาคต

ดรีมแอ็กท์ ฝันสลาย อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นข่าวคือ นายฮูลิโอ โกเมซ ชาวโคลัมเบียนพาครอบครัว ภรรยา และลูกเล็กๆ อายุ 1 และ 3 ขวบ เข้ามาอเมริกาเมื่อปี1990 ภายหลังได้ยื่นเรื่องไปที่อิมมิเกรชั่นขอใบเขียวลี้ภัยการเมือง แต่เรื่องไม่ผ่าน หลังจากนั้นทางอิมมิเกรชั่นดำเนินเรื่องเนรเทศทั้งครอบครัวและสั่งให้ออกนอกประเทศภายในปี 2003 แต่ทั้งครอบครัวไม่กลับและได้ย้ายที่อยู่ไปอยู่รัฐฟลอริด้า ปัจจุบันลูกชายอายุ 18 และ 20 ปีคนหนึ่งอยู่ไฮสกูล อีกคนพึ่งจบไฮสกูลได้เกียรตินิยมและกำลังเข้าคอลเลจได้ เมื่อเดือนที่แล้ว “ไอซ์”ไปจับทั้งครอบครัวถึงบ้าน ขณะครอบครัวถูกจับและถูกใส่กุญแจมือ ลูกชายคนโตได้ “เท็กซท์ แมซเส็จ” (Text message) ไปถึงเพื่อนบอกเพื่อนว่าตนกำลังถูกอิมมิเกรชั่นจับ เมื่อเพื่อนๆได้เท็กซ์ ก็ได้ตั้งแคมเปญร้องเรียนไปที่คองเกรสและลงเรื่องของครอบครัวนี้บนเว๊บ Facebook.com เรื่องก็เลยดังขึ้นมา เป็นข่าวใหญ่ออกรายการ CNN ครอบครัวได้รับความเห็นใจมากมายจากสาธารณชน อิมมิเกรชั่นได้รับความกดดันจากสาธารณชนและคองเกรสมาก เลยยอมเลื่อนเวลาให้เด็กสองคนอยู่ในอเมริกา รอเรื่องเนรเทศอยู่ก่อนถึงปี 2009 ซึ่งคาดว่าจะมีการโหวดร่างกฎหมาย “ดรีม แอ็กท์” (DREAM Act) ถ้ากฎหมายนี้ผ่านเด็กสองคนเข้าข่าย ดรีมแอ็กท์ เด็กจะได้วีซ่าอยู่เรียนต่อและได้ใบเขียวภายหลัง ส่วนพ่อแม่เด็ก นายและนางโกเมซ ถูกอิมมิเกรชั่นจับตัวส่งกลับโคลัมเบียเรียบร้อยแล้วเมื่อต้นเดือน พ.ย. นี้

source : www.rujirat.com

No comments: